สบู่สมุนไพร ภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า Herbal Soap ส่วนการนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคไปถวายพระสงฆ์ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Offering Monk ดังนั้น การถวายสบู่สมุนไพรแก่พระสงฆ์จึงใช้คำว่า Soap Offering, Herbal Soap Offering นั่นเอง
สบู่ตามท้องตลาดที่ขายกันอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นสบู่ก้อน หรือ สบู่เหลว มักจะใช้ส่วนประกอบจากสารเคมีเป็นสารตั้งต้นในการผลิต ซึ่งจริงๆแล้วทุกคนก็รู้ดีว่าสารเคมีเหล่านั้นไม่ดีกับสุขภาพผิวเท่าไหร่นัก ซึ่งส่วนมากแล้วจะทำให้ผิวแห้งและมีอาการแพ้ หรืออาการแห้งคัน ซึ่งการหันมาใช้สบู่สมุนไพรอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะว่าผลิตโดยใช้ส่วนประกอบจากสมุนไพรธรรมชาติที่มีสรรพคุณทางการรักษาหรือบรรเทา รวมถึงช่วยบำรุงผิวและรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว จึงทำให้ผิวมีสุขภาพดีกว่า
ข้อดีของสบู่สมุนไพร : ดีต่อสุขภาพผิว ซึ่งสบู่สมุนไพรจะต่างจากสบู่ทั่วไปที่ใช้สารเคมีเป็นวัตถุดิบ ซึ่งสบู่ที่ใช้สารเคมีในการผลิตมักจะทำให้ผิวแห้ง เมื่อผิวแห้งก็จะเกิดอาการระคายเคือง หรืออาการแพ้ได้ง่ายขึ้น และยังมีโอกาสที่จะไปอุดตันรูขุมขนได้ด้วย
- รักษาสมดุลของความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง
- สมุนไพรจะช่วยลดความตึงเครียดของร่างกายและจิตใจ
- กลิ่นที่แตกต่างจากสบู่ที่ผลิตด้วยสารเคมี
- ช่วยลด หรือ บรรเทาอาการจากโรคผิวหนังบางชนิดได้
- รักษาสิ่งแวดล้อม
ข้อเสียของสบู่สมุนไพร : ราคาสูงกว่าสบู่ทั่วไปในท้องตลาด และใช้ระยะเวลาการผลิตนาน
นอกจากนี้เราสามารถนำสมุนไพรชนิดต่างมาใช้เป็นวัดถุดิบได้โดยสมุนไพรแต่ละชนิดก็จะมีสรรพคุณแตกต่างกัน ตัวอย่าง ของสมุนไพรที่นำมาใช้ เช่น
COCOS NUCIFERA OIL หรือ น้ำมันมะพร้าว (สกัดเย็น) เราใช้น้ำมันมะพร้าวที่สกัดมาด้วยวิธี Cold Pressed ไม่ใช้ความร้อนในกระบวนการผลิต เพื่อคงคุณค่าและสารสำคัญไว้ และไม่มีกลิ่นเหม็นหืน น้ำมันมะพร้าวจะมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมทั้งความแข็ง การเกิดฟองและการทำความสะอาด โดยในน้ำมันมะพร้าวจะมีวิตามินอีที่ทำหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ และคอยปกป้องผิวชั้นนอกจากแสงแดดที่ทำร้ายผิวได้ นอกจากนี้ในน้ำมันมะพร้าวยังมีสารมอโนลอรินที่ช่วยลดอาการอักเสบ การติดเชื้อ และลดการสะสมของแบคทีเรียอีกด้วย
ELAEIS GUINEENSIS KERNEL OIL คือน้ำมันที่สกัดจากผลปาล์ม จะเข้ามาช่วยทำให้สบู่มีความแข็งขึ้นโดยไม่ต้องใส่น้ำมันมะพร้าวมากเกินไป และทำให้ความสามารถในการละลายน้ำลดลง ดังนั้นสบู่ก็จะใช้ได้นานขึ้น และยังทำให้มีสบู่สมุนไพรมีฟอง และสามารถใช้ได้กับน้ำในทุกสภาพไม่ว่าจะเป็นน้ำอ่อน หรือ น้ำกระด้าง (น้ำบาดาล น้ำประปา ก็ใช้ได้)
GLYCYRRHIZA GLABRA ROOT POWDER หรือ สารสกัดจาก รากชะเอม จะมีสารสำคัญได้แก่ Glabridin ที่มีคุณสมบัติในการขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ข่วยลดการอักเสบ ลดผลกระทบจากรังสี UV ที่จะไปกระตุ้นการผลิตเม็ดสี รวมถึงลดรอยแดง ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ
BARLERIA LUPULINA EXTRACT หรือ เสลดพังพอนตัวผู้ จะมีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ ลดบวม แก้พิษจากสัตว์พิษ เช่น ตะขาบ แมงป่อง และสัตว์พิษอื่นๆ
ANDROGRAPHIS PANICULATA LEAF EXTRACT หรือ สารสกัดจากฟ้าทะลายโจร เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านแบคทีเรีย
คำแนะนำในการเลือกซื้อสบู่สมุนไพร
สบู่สมุนไพรที่ใช้กระบวนการผลิตเย็นจะช่วยคงคุณค่าของสมุนไพรในสบู่ได้ดีกว่า
Natural Cold-Process soap วิธีผลิตสบู่ผลิตด้วยกระบวนการผลิตเย็น
การผลิตสบู่สมุนไพร หรือสบู่น้ำมันด้วยวิธีนี้ เป็นกระบวนการผลิตสบู่ที่จะช่วยคงความเป็นธรรมชาติได้ดีที่สุด โดยการผลิตจะเริ่มจากการนำเอาวัตถุดิบที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งมี กรด (acid) และน้ำมันที่มีคุณประโยชน์ต่างๆ ทั้ง hard oil และ based oil เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม และใช้ด่าง (lie) เป็นตัวทำให้เกิดปฏิกิริยา saponification ซึ่งในปัจจุบันนิยมการใช้ sodium hydroxide ในการผลิตสบู่ก้อน แทนการใช้ขี้เถ้าจากการเผาไหม้ มาผสมกับน้ำสะอาดเนื่องจากความไม่เสถียรของค่าความเป็นด่างและความไม่สะดวกในการจัดหา ซึ่ง sodium hydroxide จะถูกนำมาเจือจางกับน้ำโดยจะต้องคำนึงถึง วิธีการผสม และอัตราส่วนในการผสม ซึ่งจะต้องมีความแม่นยำและเที่ยงตรงด้วย (SAP Value ที่ถูกต้องจะทำให้ได้สบู่ที่ดีหรือเหมาะสมที่สุด) จากนั้นเราจึงเพิ่มสารจากธรรมชาติอื่นๆเข้าไปในตัวสบู่โดยมีการคำนวณอัตราส่วนที่ใช้อย่างพอเหมาะด้วย จากนั้นก็ทำการผสมทุกส่วนเข้าด้วยกันจนได้ที่ แล้วนำเข้าเก็บไว้ (ageing) จนกว่าสบู่จะได้ค่า pH ตามต้องการ ซึ่งใช้ระยะเวลาในการผลิตรวมประมาณ 3-4 สัปดาห์